ติดเครดิตบูโร : ล้างประวัติเครดิตบูโร กับมิตรเมืองไทย
ติดเครดิตบูโร เหมือน การบันทึกประวัติทางการเงิน ที่บุคคลได้ไปทำธุรกรรมกู้เงินกับสถาบันการเงิน (ธนาคาร) และ สถาบันการเงินต่างๆ มีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลประวัติลูกค้า เช่น ยอดหนี้คงค้าง การชำระหนี้ตรงเวลาไม่ตรงเวลา วงเงินบัตรเครดิต วงเงินกู้บ้านรถ ต่างๆ เพื่อรวบรวมเข้าฐานข้อมูลกลาง ซึ่งหากมีปัญหามียอดหนี้ค้างชำระ หรือเรียกทั่วไปว่า ติดเครดิตบูโร ทุกธนาคารสถาบันการเงิน จะเห็นข้อมูลเหมือนกันหมด ส่งผลต่อการอนุมัติวงเงินกู้ก้อนใหม่ อัตราดอกเบี้ย และอื่นๆมากมายในอนาคต
📌 เครดิตบูโรคืออะไร?
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (Credit Bureau Thailand)
เป็นองค์กรที่รวบรวมข้อมูลประวัติสินเชื่อและการชำระหนี้ของประชาชนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น ธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต ลีสซิ่ง ฯลฯ
ข้อมูลที่เครดิตบูโรเก็บไว้ เช่น:
- ประวัติการชำระเงินสินเชื่อ (บ้าน, รถ, บัตรเครดิต ฯลฯ)
- ยอดหนี้คงค้าง
- สถานะบัญชี (ปิดบัญชีแล้วหรือยัง)
- การผิดนัดชำระ (ถ้ามี)
- จำนวนบัญชีสินเชื่อที่เปิดอยู่ และ วงเงินแต่ละบัญชี
📅 เครดิตบูโรเก็บข้อมูลย้อนหลัง ไม่เกิน 3 ปี สำหรับประวัติการผิดนัดชำระ


📜 วิธีเช็คเครดิตบูโร
คุณสามารถขอเช็คข้อมูลเครดิตของตนเองได้จากช่องทางของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เช่น
- แอป “myCredit Bureau”
- เคาน์เตอร์บริการ เช่น ธนาคารใหญ่, จุดบริการเครดิตบูโร (เช่น สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง, MRT พระราม 9)
- ไปรษณีย์ไทย
✅ ค่าบริการประมาณ 100 บาท
📅 ได้ผลภายใน 1–3 วัน ขึ้นอยู่กับช่องทาง
🧮 เครดิตบูโร “ไม่ได้” คำนวณคะแนนให้เอง
เครดิตบูโรทำหน้าที่ “รายงานข้อมูล” เท่านั้น
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จะทำการรวบรวมข้อมูลการชำระสินเชื่อ บัตรเครดิต เงินกู้ จากสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นสมาชิก และบันทึกไว้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อยื่นกู้กับสถาบันการเงิน คะแนนเครดิตจะถูกคำนวณโดยแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินเอง (ตามเกณฑ์ภายใน) เวลาคุณยื่นขอสินเชื่อ
แต่ละที่อาจใช้โมเดลต่างกัน เช่น Credit Scoring Model ที่พิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง 👇
🏦 ความจริงของการ “ติดเครดิตบูโร”
ในความเป็นจริง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ไม่ได้ “แบล็กลิสต์” ใคร
แต่เป็นหน่วยงานที่ เก็บประวัติสินเชื่อ เช่น
- เคยค้างชำระหนี้ไหม
- จ่ายหนี้ตรงเวลาหรือเปล่า
- มีวงเงินสินเชื่ออยู่กี่บัญชี วงเงินแต่ละบัญชีเท่าไร
- รายการบัญชีที่ยังมีอยู่ และ ปิดไปแล้ว
สถาบันการเงินเป็นคนพิจารณา “อนุมัติสินเชื่อหรือไม่” จากประวัติเหล่านี้
ใช้วิธีขายฝาก / จำนอง กับ มิตรเมืองไทย
เพื่อปิดยอดหนี้เครดิตบูโร
ล้างประวัติบูโร ให้กลับมาเครดิตดีเหมือนเดิม
เพราะ ขายฝาก / จำนอง กับ มิตรเมืองไทย ไม่ต้องเข้าประวัติกับเครดิตบูโร ทางเลือกหนึ่งของการล้างประวัติเครดิตบูโร หรือ เริ่มต้นชีวิตใหม่ทางการเงิน คือ การนำเงินทุนแหล่งอื่นที่ไม่ต้องเข้าเครดิตบูโร มาปิดหนี้ค้างชำระของเครดิตบูโร เช่นการนำอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน มาจำนอง / ขายฝาก กับมิตรเมืองไทยก่อน หลังจากนั้นเมื่อเวลาเหมาะสม ก็ค่อยเริ่มทำประวัติสร้างเครดิตใหม่เพื่อนำอสังหาริมทรัพย์นั้นเข้ากู้เงินกับสถาบันการเงินใหม่อีกทีหนึ่ง
- จำนอง ขายฝาก กับ มิตรเมืองไทย ไม่ต้องใช้เครดิตบูโร
- จำนอง ขายฝาก กับ มิตรเมืองไทย ไม่ส่งผลต่อเครดิตบูโร
- นำเงินทุนไปปิดหนี้สินเชื่อบูโร เพื่อเคลียร์เครดิต
- รอล้างประวัติบูโร แล้วกลับเข้าสู่สถาบันการเงินอีกครั้ง


มิตรเมืองไทย เป็นทางเลือก สำหรับบุคคลหรือนิติบุคคล เจ้าของกิจการ ประชาชน ที่ต้องการเคลียร์หนี้สินเชื่อ ที่คงค้างอยู่กับสถาบันการเงินธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อธุรกิจ Over Draft สินเชื่อเกินวงเงิน (OD) เป็นต้น เพื่อยุติการรายงานหนี้เสียคงค้างชำระในรายงานเครดิตบูโร ผ่านกระบวนการขายฝากที่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยนำอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน คอนโด อาคารพาณิชย์ มาค้ำประกันการขายฝาก และนำวงเงินที่ได้ไปปิดหนี้คงค้างกับสถาบันการเงิน ก่อนที่จะเป็นหนี้เสียค้างชำระ หรือหลังจากเป็นหนี้เสียแล้ว เมื่อครบกำหนดเครดิตบูโรลบประวัติหนี้เสียออกแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นสร้างเครดิตใหม่แล้วทำธุรกรรมกับธนาคารสถาบันการเงินต่างๆใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
- จำนองขายฝาก เพื่อปิดหนี้ธนาคาร
- จำนองขายฝาก เพื่อรวมหนี้ ปิดหนี้บัตรเครดิต
- จำนองขายฝาก เพื่อเคลียร์หนี้เดิม สร้างเครดิตใหม่
การบันทึก เครดิตบูโร
สถาบันการเงิน ธนาคาร ต่างๆที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จะส่งข้อมูลสินเชื่อของลูกค้าทุกรายทุกบัญชี เป็นรายเดือน ทุกเดือนจนกว่าบัญชีสินเชื้อนั้นจะได้รับการชำระเสร็จสิ้น กรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้และค้างชำระเกิน 90 วันนับจากกำหนด เช่น กำหนดชำระหนี้วันที่ 31 มกราคม 2560 ลูกค้าค้างชำระเกินวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 สถาบันการเงินเจ้าหนี้จะส่งข้อมูลสินเชื่อคงค้างให้ทางบริษัทข้อมูลเครดิตฯต่อเนื่องทุกเดือนไปอีกไม่เกิน 5 ปี และ บริษัทข้อมูลเครดิต (บูโร) จะเก็บข้อมูลเครดิตที่ได้รับไว้ในฐานข้อมูลไปอีกเป็นเวลาไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ได้รับข้อมูลจากสถาบันการเงิน ยกตัวอย่างว่า หากเป็นหนี้เสียค้างชำระ แล้วเจรจากับธนาคารชำระหนี้สินเชื่อทั้งหมดในวันที่ 30 เมษายน 2560 ธนาคารจะส่งข้อมูลไปยัง บริษัทข้อมูลเครดิต (บูโร) ว่าได้รับการชำระหนี้ทั้งหมดแล้ว แต่ประวัติว่าเคยค้างชำระเป็นหนี้เสียจะยังคงแสดงผลในรายงานอยู่ต่อไปจนกระทั้งหลังวันที่ 30 เมษายน 2563 ซึ่งลูกหนี้สามารถตรวจสอบเครดิตบูโรได้ด้วยตนเองว่าประวัติได้ถูกลบไปจากรายงานในฐานข้อมูลหรือยังตามช่องทางต่างๆ

ผลเสียของการติดเครดิตบูโร
เมื่อมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ในฐานข้อมูลเครดิตบูโร ข้อมูลนี้จะแสดงติดตัวไปจนกว่าจะครบกำหนดไม่เกิน 3 ปีหลังจากชำระหนี้หมด ซึ่งทุกธนาคารสถาบันการเงินจะเห็นข้อมูลทั้งหมดเมื่อลูกค้าไปขอสินเชื่อ และมีโอกาสสูงที่จะไม่ผ่านเงื่อนไขการกู้ตามที่ธนาคารต่างๆกำหนด การทำธุรกรรมสินเชื่อใดๆหลังจากนี้กับสถาบันการเงินจะยากขึ้นมาก และ ยังอาจส่งผลอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกด้วยเนื่องจากความเสี่ยงมากขึ้น
ผลเสียของการ “ติดเครดิตบูโร” เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะถึงแม้ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จะไม่ได้แบล็กลิสต์ใครโดยตรง แต่ประวัติที่ไม่ดีจะทำให้คุณ “เข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น” และส่งผลหลายด้านกับชีวิตทางการเงินโดยตรง 💳💰
⚠️ หมายเหตุสำคัญ
- ถ้าคุณ “ยังไม่จ่ายหนี้” → ประวัติจะไม่ถูกลบออก ไม่ว่าผ่านไปกี่ปีก็ตาม
- การปิดบัญชี → เป็นจุดเริ่มนับ 3 ปี
- ถ้า “ประวัติค้างชำระเพียงเล็กน้อยและชำระครบแล้ว” → บางธนาคารอาจอนุมัติสินเชื่อได้เร็วกว่ารอครบ 3 ปีทั้งหมด
ติดเครดิตบูโรส่งผลอย่างไรบ้าง
ขอสินเชื่อใหม่ยาก หรือถูกปฏิเสธ
เมื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินตรวจเจอประวัติการค้างชำระหรือผิดนัด
- “ไม่อนุมัติ” สินเชื่อ
- อนุมัติแต่ให้วงเงินน้อยกว่าที่ขอ
- คิดดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ (เพราะมองว่ามีความเสี่ยง)
🏦 เช่น ขอสินเชื่อบ้าน → ธนาคารเช็กเครดิตบูโร → พบเคยค้างชำระ 90 วัน → ปฏิเสธแม้ว่าปัจจุบันคุณจะมีรายได้เพียงพอ
ขอสินเชื่อร่วม / ค้ำประกันผู้อื่นไม่ได้
- ถ้าคุณมีประวัติไม่ดี จะไม่สามารถเป็นผู้กู้ร่วม หรือค้ำประกันให้คนอื่นได้ง่าย
- เพราะธนาคารจะพิจารณาผู้กู้ร่วมทุกคน หากคนใดคนหนึ่งมีเครดิตเสีย → โอกาสที่สินเชื่อจะผ่าน “น้อยลงมาก”
เสียโอกาสในการวางแผนทางการเงินระยะยาว
- ไม่สามารถกู้ซื้อบ้าน / รถ / ธุรกิจ ได้ในเวลาที่ต้องการ
- ทำให้แผนชีวิตต้องเลื่อนออกไป เช่น การซื้อบ้านหลังแรกหรือเริ่มธุรกิจ
- บางกรณีเสียโอกาสการลงทุนหรือโปรโมชันทางการเงินดี ๆ
ถูกจำกัดสิทธิด้านบัตรเครดิต / บริการทางการเงิน
- อาจถูกปฏิเสธบัตรเครดิตใหม่
- วงเงินเดิมไม่สามารถเพิ่มได้
- ไม่สามารถใช้บริการบางประเภท เช่น ผ่อน 0% หรือสินเชื่อบุคคลง่าย ๆ ได้
เสียความน่าเชื่อถือทางการเงิน
- ชื่อของคุณอาจถูกมองว่า “มีความเสี่ยง” แม้ปัจจุบันคุณจะมีรายได้ดีแล้ว
- บริษัทหรือธนาคารที่ตรวจเครดิตจะเห็นประวัติย้อนหลัง
- ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าหรือพาร์ตเนอร์ในกรณีทำธุรกิจ
ต้องใช้เวลาและความพยายามในการฟื้นเครดิต
- หากเคยค้างชำระ → ต้องใช้เวลา 3 ปีนับจากวันปิดบัญชี เพื่อให้ข้อมูลเสียถูกลบออก
- ระหว่างนั้นแม้จะอยากขอสินเชื่อใหม่ → โอกาสผ่านก็ยังต่ำ
- ต้องเริ่มสร้างเครดิตใหม่ด้วยการใช้สินเชื่อเล็ก ๆ และจ่ายตรงเวลา
🛡️ เคล็ดลับเร่ง “ภาพลักษณ์ทางเครดิต” ให้ดีขึ้นระหว่างรอ 3 ปี
แม้จะต้องรอ 3 ปีให้ข้อมูลเก่าถูกลบ แต่คุณสามารถ “ฟื้นความน่าเชื่อถือ” ได้เร็วกว่านั้นในสายตาธนาคาร เช่น 👇
- ✅ ชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดให้เรียบร้อย
- 📊 เปิดสินเชื่อขนาดเล็กที่สามารถชำระตรงเวลาได้ (เพื่อสร้างประวัติใหม่ที่ดี)
- 💳 อย่าเปิดสินเชื่อใหม่หลายรายการในเวลาใกล้กัน
- 📝 ตรวจสอบรายงานเครดิตบูโรของคุณเองเป็นระยะ
- 🏦 ขอให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณชำระแล้วอัปเดตสถานะบัญชีให้ถูกต้อง
การล้างข้อมูลเครดิตบูโร เริ่มต้นชีวิตใหม่
มิตรเมืองไทย เป็นตัวกลางเชื่อมโยงแหล่งทุนขายฝาก จำนอง ดอกเบี้ยถูกที่สุดเริ่มที่ 0.75% – 1.25% ต่อเดือน (9%-15%ต่อปี) เทียบเคียงกับอัตราดอกเบี้ยสถาบันการเงินบางประเภท การขายฝากจำนองของมิตรเมืองไทย จะไม่มีประวัติในฐานข้อมูลเครดิตบูโร จะไม่ส่งผลให้ยอดหนี้รวมในระบบฐานข้อมูลบูโรเพิ่มขึ้น เมื่อได้รับเงินทุนจากการจำนองขายฝากผ่านมิตรเมืองไทยแล้ว นำไปชำระหนี้ที่ค้างอยู่กับสถาบันการเงินธนาคารเสร็จสิ้น ยอดหนี้ในระบบบูโรจะถูกแสดงว่าไม่มีหนี้คงค้างอีก ทั้งนี้สามารถทำได้ก่อนที่จะเป็นหนี้เสียค้างชำระ คือเมื่อรู้ตนเองว่าไม่สามารถผ่อนตรงกำหนดเวลาได้ ก็สามารถนำอสังหาริมทรัพย์มาทำการจำนองขายฝาก นำเงินทุนที่ได้ไปปิดหนี้ทั้งหมด จัดระเบียบการเงินใหม่ แล้วค่อยเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินอีกครั้ง หรือ หากติดเครดิตบูโรเป็นหนี้เสียในระบบแล้ว หลังจากนำเงินทุนจากการจำนองขายฝากไปปิดหนี้ยุติประวัติหนี้เสียในระบบก่อน หลังจากครบกำหนดลบข้อมูลของเครดิตบูโร ก็ค่อยสร้างประวัติเครดิตใหม่ แล้วเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินอีกครั้งหนึ่ง
ทีมงานมิตรเมืองไทย ยินดีให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ บุคคล นิติบุคคล เจ้าของกิจการ ทุกท่าน ที่ต้องการคำปรึกษาในการสร้างเครดิต ติดเครดิตบูโร ล้างเครดิตบูโร เพื่อเริ่มประวัติทางการเงินใหม่





